วันนี้ WOW รวมโปรแกรมหรือเว็บหา keyword ที่ดีที่สุดสำหรับการทำ SEO 10 โปรแกรม ที่คนทำงาน SEO นิยมใช้มากที่สุด ไม่ว่าจะใช้ตัวเดียวหรือใช้หลายตัวร่วมกัน ก็ยังเป็นโปรแกรมกลุ่มนี้ที่ช่วยชีวิตเว็บไซต์ของชาว SEO เอาไว้
Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือหาคีย์เวิร์ดที่อยู่ใน Google Ads หรือ Google AdWords ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหาคีย์เวิร์ดเพื่อทำเว็บไซต์ เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือหาคีย์เวิร์ดได้แล้ว ยังเป็นวิธีการเรียนรู้เครื่องมือทำเว็บไซต์ของ Google ในเวลาเดียวกัน
โดยเราจำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้งาน Adwords เพื่อใช้ Keyword Planner ซึ่งโดยปกติแล้ว ผู้ใช้งาน Google AdWords จะเป็นผู้ที่ซื้อโฆษณาใน Google (หรือทำ SEM) แต่เราก็สามารถใช้ Google Keyword Planner ได้ โดยไม่ต้องใช้ Google Ads ซื้อโฆษณาใน Google
Google Trends คือ เครื่องมือฟรีของ Google อีกเครื่องมือหนึ่ง ที่ช่วยให้เรารู้ว่าคำค้นแต่ละคำมีคนหาเยอะแค่ไหนในแต่ละพื้นที่ แนวโน้มการค้นหาที่ผ่านมา รวมคีย์เวิร์ดในกลุ่มเดียวกัน หรือคีย์เวิร์ดที่คล้ายกันเนื่องจากการสะกดผิดก็ได้
จุดเด่นของ Google Trends คือจะแสดงกราฟแนวโน้มการค้นหาให้เราสามารถเปรียบเทียบคำค้นแต่ละตัวได้อย่างน่าสนใจ ดาวน์โหลดมาดูในคอมพิวเตอร์ก็ได้ หรือจะเอาลิงค์ Embed มาใส่ในเว็บไซต์ของเราก็ได้ ขณะที่เครื่องมือหา keyword อื่นๆ จะแสดงข้อมูลเป็นจำนวนตัวเลข และไม่เน้นเปรียบเทียบได้อย่างมีสีสันเหมือนกับ Google Trends
Google Trends จึงเหมาะกับเวลาที่ต้องการตัดสินใจเลือกคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุด ดีที่สุดในที่นี้คือ ปริมาณการค้นหาของแต่ละคีย์เวิร์ด คำไหนมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ควรจะเลือกใช้คำนั้น
Ahrefs เป็นเครื่องมือที่ครบเครื่องอีกตัวหนึ่งที่หนักแน่นทั้งการทำ SEO ของเว็บตัวเอง และการวิเคราะห์เว็บคู่แข่งเพื่อทำตัวเองให้ดีกว่า เหมาะกับชาว SEO มืออาชีพที่เน้นการทำ SEO เชิงเทคนิค โดย Ahrefs จะเจาะรายละเอียดของข้อมูลต่างๆ ในเชิงลึกมากขึ้นไปอีก เช่น
Term Explorer จะคล้ายกับ Ahrefs ในแง่ของการเจาะรายละเอียดของข้อมูลแต่ละอย่างของคำค้น ที่นำไปสรุปเป็นรายงานวิเคราะห์คำค้นให้ผู้ใช้งานต่อไป โดย Term Explorer จะสรุปข้อมูลของผลลัพธ์ที่ปรากฎบนหน้าค้นหา (SERPs) หน้าแรกให้กับผู้ใช้งาน เช่น จำนวนผลการค้นหา ความแข็งแรงของลิงค์ คะแนนความน่าเชื่อถือ และความยากง่ายของคีย์เวิร์ด
หากใช้ Google Trends อยู่แล้วเป็นประจำ SEMrush ยังเป็นเหมือนเวอร์ชั่นอัปเกรดของ Google Trends ที่ผู้ใช้งานสามารถดูอันดับของคำค้นใน SERPs และวิเคราะห์ประวัติการขึ้นและลงในอันดับการค้นหาของคำค้นต่างๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะออกมาเป็นตารางแบบต่างๆ ที่ดูง่าย เข้าใจง่าย แต่มีข้อมูลเชิงลึกของ SEO ที่เยอะและครบครัน
5. Accuranker
หากเป็นคนทำ SEO ที่ชอบตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของอันดับของคำค้นเป็นประจำ Accuranker เป็นเครื่องมือที่จะช่วยประหยัดเวลาตรงนี้ได้มาก นี่คือข้อดีหลักๆ ที่คนพูดถึงโปรแกรมหา keyword ตัวนี้ ข้อต่อมาคือ ระบบจัดเรียงอันดับโดยอัตโนมัติว่า คำค้นของเว็บไหนมีอันดับที่ดีกว่ากัน ซึ่งเหมาะกับทั้งคนที่ต้องการข้อมูลเพื่อปรับปรุง SEO บ่อยครั้งและเป็นประจำ หรือจำเป็นต้องสรุปผลการทำ SEO เพื่อนำไปรายงานต่อ
Accuranker ยังค่อนข้างเหมาะสำหรับคนที่ทำ SEO เพื่อธุรกิจเฉพาะพื้นที่ เช่น กิจการในประเทศ หรือธุรกิจที่ขายทั้งในและต่างประเทศ โดยวิเคราะห์แยกให้ว่า ลิงค์ของเรามีประสิทธิภาพที่ดีแค่ไหนในผลการค้นหาของแต่ละประเทศ และท้ายสุดคือ สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือฟรีของ Google เช่น Google Analytics และ Google Search Console ได้ดีด้วย