แนะนำเว็บฝากไฟล์ บน web ฟรี 2019
https://mega.nz/C!SqIWUYhZ
รองรับทุกชนิดไฟล์ ฟรี50 GB ไม่มีลบ ไฟล์ไม่หมดอายุ
*************************************************
https://www.adrive.com/login
รองรับทุกชนิดไฟล์
Personal Basic (FREE 50GB)
ไฟล์ไม่มีลบ ถ้าเก็บไฟล์นั้นไว้โหลดส่วนตัว
************************************************
http://www.one2up.com/
Upload ไม่ควรเกิน 600 Mb ต่อไฟล์
ไม่มีลบ ถ้าไม่มีการคลิ๊กไฟล์นั้นๆภายใน 30วัน จะถูกลบออก
ไฟล์ วีดีโอ เสียง สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอม
****************************************************************
เว็บเสียเงินยอดนิยม
https://www.google.com/settings/storage/?hl=th
free 5 gb
ไฟล์ วีดีโอ ไฟล์งานต่างๆ รูป สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอม
***********************************************************************
https://www.mediafire.com/upgrade/?plan=pro
ฟรี 10 GB
ไฟล์ วีดีโอ เสียง ไฟล์งานต่างๆ รูป สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอม
**************************************************************************
https://www.box.com/pricing/
free 5gb
ไฟล์ วีดีโอ เสียง ไฟล์งานต่างๆ รูป สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอม
***********************************************************************************************
ในปัจจุบันนี้ถ้าหากพูดถึงบริการฝากไฟล์บนอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกกันว่า Cloud Storage แล้วล่ะก็ ปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายเว็บไซต์ด้วยกัน จนบางครั้งมากมายเสียจนหลายคนเกิดความลังเล เลือกไม่ถูกว่าจะใช้ของเจ้าไหนดี วันนี้ Dailytech.in.th จึงมาแนะนำบริการฝากไฟล์ทั้ง 12 ที่มีคนนิยมใช้กันมากที่สุดให้ได้ทำความรู้จักเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้กัน
โดยบริการของเจ้าใดจะมีจุดเด่นอย่างไรบ้างมาดูกันเลย บริการฝากไฟล์ออนไลน์ One Drive, Google Drive, Dropbox, Box, Adrive, Copy, iCloud, Mega, One2up, Plam Share,Mediafire และ Upload แตกต่างกันอย่างไร เลือกใช้ของเจ้าไหนดี มาดูกัน
(1) One Drive
บริการฝากไฟล์จากไมโครซอฟท์ ผู้พัฒนา Windows และโปรแกรมตระกูล Office ที่มีพื้นที่เริ่มต้นให้มา 7GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 2GB สามารถชวนเพื่อนมาใช้บริการเพื่อรับพื้นที่เพิ่มได้ หรือจะจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ เริ่มต้นที่ 65 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 50GB มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนบริการของเจ้าอื่น ๆ คือ สามารถเข้าใช้งานได้บนทุกระบบปฏิบัติการ ทั้ง Windows, Mac, iOS, Android และ Windows Phone ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บและแอพฯ รองรับการแชร์ไฟล์แบบสาธารณะ นอกจากนี้ ไฟล์เอกสารต่าง ๆ ที่ทำบนโปรแกรมตระกูล Office นั้นสามารถเก็บไว้บน One Drive เพื่อนำไปเปิดบนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้เลย เพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://onedrive.live.com/
(2) Google Drive
บริการฝากไฟล์จากกูเกิล ผู้พัฒนา Search Engine ยักษ์ใหญ่ของโลก กับพื้นที่เริ่มต้นที่ให้มามากถึง 15GB และสามารถจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ เริ่มต้นประมาณ 60 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริการฝากไฟล์ที่ให้พื้นที่มากและราคาถูกที่สุดในขณะนี้เลยทีเดียว สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บและแอพฯ อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ ของกูเกิล ไม่ว่าจะเป็นการแนบไฟล์บน Google Drive เพื่อส่งอีเมลทาง Gmail หรือเก็บไฟล์เอกสารต่าง ๆ ของ Google Docs เพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.google.com/drive/
(3) Dropbox
บริการฝากไฟล์ยอดนิยมที่มีพื้นที่เริ่มต้นให้มาเพียง 2GB เท่านั้น แต่มีโปรโมชั่นแจกแถมพื้นที่เพิ่มให้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชวนเพื่อนมาใช้งานหรือโปรโมชั่นอื่น ๆ ที่ทำให้สามารถได้พื้นที่เพิ่มฟรีอีกหลายสิบ GB เลยทีเดียว หรือถ้าหากต้องการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 270 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB รองรับการใช้งานทั้งบนเว็บและแอพฯ โดยจุดเด่นของ Dropbox ก็คือความอิสระในการฝากและแชร์ไฟล์ที่สามารถนำลิงก์ดาวน์โหลดของไฟล์ที่ฝากไว้ส่งไปให้คนอื่นดาวน์โหลดได้อย่างสะดวกและง่ายดาย แถมยังไม่มีการจำกัดขนาดไฟล์อีกด้วย โดย เพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.dropbox.com/
(4) Box
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยมีพื้นที่เริ่มต้นให้ 10GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 250MB สามารถเพิ่มพื้นที่เป็น 100GB (รองรับไฟล์ใหญ่สุด 5GB) ได้ด้วยการจ่ายเงินประมาณ 320 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ใช้ในกลุ่มองค์การก็มีให้เลือกได้หลายแพ็กเกจตามลักษณะการใช้งาน สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและแอพฯ เพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.box.com/
(5) iCloud
บริการฝากไฟล์ของแอปเปิลที่พัฒนามาเพื่อสาวกแอปเปิล เพราะสามารถใช้ได้เฉพาะผู้ที่ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิลเท่านั้น เช่น iPhone, iPad หรือ Mac โดยมีพื้นที่เริ่มต้นให้ 5GB ถ้าต้องการพื้นที่เพิ่มจะต้องจ่ายเงินประมาณ 55 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 10GB ซึ่งมีข้อจำกัดคือสามารถฝากได้เฉพาะไฟล์รูปเท่านั้น ไม่รองรับไฟล์ประเภทอื่น ๆ โดยสำหรับผู้ใช้ iWork จะสามารถฝากไฟล์เอกสารไว้บน iCloud เพื่อเปิดดูและแก้ไขเอกสารบนอุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลได้ โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.icloud.com/
(6) Copy
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยมีพื้นที่เริ่มต้นให้ 10GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 250MB สามารถเพิ่มพื้นที่เป็น 30GB สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและพีซี โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.copy.com/
(7) Mega
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยมีพื้นที่เริ่มต้นให้ 10GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 250MB สามารถเพิ่มพื้นที่เป็น 100GB เว็บบริการฝากไฟล์น้องใหม่ที่รองรับทุกชนิดไฟล์ ฟรี50 GB ไม่มีลบ ไฟล์ไม่หมดอายุ โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://mega.co.nz/
(8) Upload
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร เว็บบริการฝากไฟล์ที่รองรับทุกชนิดไฟล์ อัพโหลดไฟล์ได้สูงสุดถึง 500 MB พื้นที่จัดเก็บไม่จำกัด (ไทย) โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ http://upload.ohozaa.com/
(9) Plam Share
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร เว็บบริการฝากไฟล์น้องใหม่ที่รองรับทุกชนิดไฟล์ขนาดไฟล์สูงสุดที่อัพโหลดได้: 10 GB พื้นที่จัดเก็บไม่จำกัด (ไทย)ไฟล์ วีดีโอ เสียง สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอม โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://palm-share.com/
(10) Adrive
บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยรองรับทุกชนิดไฟล์ โดย Personal Basic ฟรี FREE 50GB โดยไฟล์ไม่มีลบ ถ้าเก็บไฟล์นั้นไว้โหลดส่วนตัว โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.adrive.com/
(11) One2up
เว็บบริการฝากไฟล์ที่รองรับไฟล์ วีดีโอ เสียง สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอมและไม่มีลบ ถ้าไม่มีการคลิ๊กไฟล์นั้นๆภายใน 30วัน จะถูกลบออกและควรUpload ขนาดไฟล์ไม่ควรเกิน 600 Mb ต่อไฟล์ โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ http://www.one2up.com/
(12) Mediafire
เว็บบริการฝากไฟล์น้องใหม่ที่รองรับไฟล์ วีดีโอ เสียง ไฟล์งานต่างๆ รูป สามารถเล่นได้เลยบนเว็บโดยที่ไม่ต้องโหลดลงคอม ฟรี 10 GB โดยเพื่อนๆสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.mediafire.com/
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบริการฝากไฟล์ทั้ง 12 หลังจากได้ทำความรู้จักกันแล้ว คราวนี้ตัดสินใจเลือกกันได้หรือยังเอ่ย ว่าจะใช้บริการของเจ้าไหนดี